A Little Journey : Meeting with a Remarkable Man (จบ)
A Little Journey / นิยาย / พัณณิดา ภูมิวัฒน์ / ลวิตร์ / แฟนตาซี

A Little Journey : Meeting with a Remarkable Man (จบ)

ที่มา: http://www.trover.com/d/yJPu-isle-of-skye-highland-scotland -4-   เทย์ทรุดนั่งลง เขาเหนื่อยแล้ว แม้จะไม่ได้ใช้กำลังกาย แต่การสร้างจินตนาการต้องใช้พลังสมาธิสูง ทำให้รู้สึกล้า เขาไม่ใช่หนุ่มๆ แล้ว อีกอย่าง…ไอ้เจ้าชายก็บ้าพลังมากทีเดียว แต่เพราะมันสร้างโลกได้อย่างบ้าคลั่งขนาดนั้น เขาเลยพลอยสนุกด้วยอย่างช่วยไม่ได้ นานมากแล้วที่ไม่มีอะไรให้บริหารความคิดถึงขั้นนี้ เขาก็เพลิน…เกินไป มันบ้ามาก มีรายละเอียดมหาศาล ไม่รู้ว่าอุตส่าห์คิดยิบย่อยเป็นขั้นเป็นตอนขนาดนั้นได้อย่างไร แต่โลกของมันก็น่าสนใจดี มีปัจจัยต่างๆ ให้บิดเปลี่ยนและพลิกเล่นมากมาย “ท่านเลิกแล้วหรือ” ไอ้เจ้าชายถาม…แน่นอนว่ายังหน้าตาย แต่เขามั่นใจว่ามันผิดหวังหน่อยๆ อยู่เหมือนกัน “ข้าจะตายแล้ว เจ้าอยากให้แม่ของหนูวาลเป็นม่ายหรือไง” เจ้าชายเลิกคิ้วนิดหนึ่ง มันเดินข้ามมาใกล้ ก่อนนี้เขากับมันต่างอยู่บน “ฟ้า” คนละด้าน เพื่อจะได้มองภาพรวมของบ้านเมืองอันมหึมามโหฬาร บางทีพวกเขาก็ลงไปเดินตามถนนเพื่อดูสภาพของประชาชนเหมือนกัน แต่เพราะโลกมหึมามาก ส่วนใหญ่จึงต้องดูจากเบื้องบน ตอนนี้ก็ยังอยู่บนฟ้า แต่เจ้าชายข้ามมานั่งด้วย สองคนจึงมองลงไป…โลกใหญ่จริงๆ เทย์ไม่ทันรู้ตัวว่าบ้าสร้างกันขนาดไหน แต่พอได้หยุดมองความใหญ่เต็มตา เห็นกระทั่งระบบดวงดาวใหม่ยกชุด ทวีปอีกประมาณสี่ห้าทวีป (มีทวีปสาบสูญในตำนานหนึ่งทวีป ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน) วัฒนธรรมและเผ่าไม่ทราบจำนวน สภาพภูมิศาสตร์ถูกต้องตามระเบียบทุกประการ นี่ยังไม่นับมหาสมุทรกับปลาประหลาดๆ อีกหลายล้านตัว พ่อมดก็ต้องนึกหนาวนิดๆ ขึ้นมา “เจ้าเป็นอัจฉริยะสินะ” เขาออกความเห็น “ระบบความคิดใหญ่มาก ไม่ใช่คนธรรมดา” … Continue reading

เพราะรักคือเธอ 1
นักเขียน / นิยาย / Uncategorized

เพราะรักคือเธอ 1

  1. อุณหภูมิสิบเจ็ดองศา กลิ่นหอมอ่อนของเนื้อไม้ และรอยจุมพิตอ้อยอิ่งยังคงอยู่ในความรู้สึก จนกระทั่งชนาเมธเดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วนั่นแหละ ที่ชายหนุ่มได้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง โลก…อันแสนวุ่นวายของเขา ชนาเมธหลับตาลงอย่างสงบใจ ร่างสูงโดดเด่นเดินผ่านร้านค้ามากมาย อันเป็นปราการด่านสุดท้ายที่จะลดทอนเงินในกระเป๋า แต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจเลยสักนิด ชนาเมธเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นเขาไปที่นั่นเพียงแค่สี่วันเท่านั้น และก็ไม่ได้ไปเพื่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใด ดังนั้นสัมภาระของเขาจึงมีเพียงแค่กระเป๋าเดินทางใบเล็กใบเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าใครได้รับรู้ก็คงอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมการเดินทางแสนสั้นจึงจบลงแบบไม่มีแม้กระทั่งรูปถ่ายที่ระลึกสักใบ “ทางนี้ครับบอส” ที่ประตูทางออกมีหลายคนกำลังชะเง้อมองหาเป้าหมาย หนึ่งในนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งตะโกนเรียกชนาเมธอย่างเสียงดังฟังชัด ชายหนุ่มหันไปทางต้นเสียง แล้วส่ายหน้าระอาเล็กน้อย ไม่ว่าจะบอกกี่ครั้งก้องภพก็ยังคงเป็นแบบนี้เสมอมา ผู้ช่วยของเขาเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเขากับอีกฝ่ายสนิทกันพอสมควร ทั้งความคิดเห็น และวิธีการทำงานของก้องภพเป็นสิ่งที่ชนาเมธชื่นชม เมื่อเห็นความสามารถรุ่นน้องคนสนิท ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่ลังเลที่จะดึงก้องภพมาช่วยงาน แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของอีกฝ่ายจะดูไม่เหมือนคนที่จะเป็นผู้ช่วยเขาเลยสักนิดก็ตามที “เครื่องเลทจังนะครับ ผมมารอบอสตั้งเกือบชั่วโมงแล้ว” ก้องภพยิ้มกว้าง เขาไว้ผมยาวดัดเป็นคลื่นเล็กน้อยรับใบหน้าสวย เมื่อรวมกับการแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีสดและกางเกงผ้าพอดีตัว จึงทำให้ดูราวกับนักร้องเกาหลีไม่มีผิด “ขอบใจนะที่มารอ และเลิกเรียกฉันว่าบอสได้แล้ว” ชนาเมธตบไหล่หนุ่มรุ่นน้องเป็นการทักทาย ภาพลักษณ์อันแสนบอบบางและบุคลิกอันสดใสเจิดจ้าของก้องภพจะเรียกสายตาสงสัยใคร่รู้ ในความสัมพันธ์อันอาจจะพิลึกพิลั่นระหว่างเขากับก้องภพ ซึ่งชนาเมธรู้ว่าหากไม่มีคำอธิบายที่ดีพอ คนเหล่านั้นจะสรุปตามความคิดของตนเอง “หน้าที่ผมเลยครับพี่ ไม่ให้มารอได้ไงเจ้านายกลับมาทั้งที” ก้องภพรับกระเป๋าเดินทางไปถือ ชนาเมธยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนที่จะออกเดินนำหน้า โดยที่มีก้องภพเดินตามเยื้องไปทางขวามือเล็กน้อย “งานที่บริษัทเป็นอย่างไรบ้าง” ชนาเมธถามในขณะที่เอามือหนึ่งล้วงกระเป๋า ส่วนอีกด้านก็ยกขึ้นเพื่อตรวจสอบเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาให้แน่ใจว่าได้ปรับนาฬิกาให้ตรงกับเวลาบ้านเกิดแล้ว “การเจรจาเบื้องต้นกับมิสเตอร์ทาคาชิ เรื่องสินค้าของเราที่จะไปวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นราบรื่นดีครับ ทางนั้นรับข้อเสนอใหม่ เรื่องมาร่วมทุนผลิตสินค้าใหม่ให้จำหน่ายในประเทศไทย … Continue reading

นิยาย VS ละครโทรทัศน์ #1
นักเขียน / นิยาย / บทสัมภาษณ์ / บทโทรทัศน์ / ปัญญ์ปรียา / หนังสือ / Uncategorized

นิยาย VS ละครโทรทัศน์ #1

ทำไมทำละครไม่เหมือนในนิยาย? ในนิยายเรื่องไม่ได้เป็นแบบในละคร? ทำไมไม่มีตัวละครตัวนี้ในละคร? ฉากนี้ไม่มีในนิยายนี่? และอีกหลายคำถามที่เกิดขึ้นเมื่อหนังสือนิยายหลายเรื่องได้ไปทำเป็นละคร  เนื้อเรื่อง เหตุการณ์ ตัวละครและองค์ประกอบอีกหลายอย่าง ถูกดัดแปลงให้ต่างจากนิยาย ไปเป็นละครแล้วขัดใจคนอ่าน ทั้งที่นิยายสนุกมาก แต่พอทำละครแล้วไม่ชอบเลย ฉันก็ ‘เคย’ รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ที่ใช้คำว่า ‘เคย’ เพราะตอนนี้ นอกจากเขียนนิยายแล้ว ฉันก็มีโอกาสได้เขียนบทโทรทัศน์ แล้วก็พบว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้นิยายกับละครโทรทัศน์แตกต่างกัน สิ่งแรกที่นิยายกับละครโทรทัศน์แตกต่างกัน ซึ่งทุกคนคงเห็นได้ชัดเจน ก็คือรูปแบบของสื่อ นิยายสื่อสารผ่านตัวอักษร ที่กระตุ้นให้เกิดการจินตนาการ คนอ่านสามารถสร้างภาพทั้งหมดขึ้นในหัวได้ อยากให้เป็นอย่างไรก็ได้ อีกทั้งการตั้งใจและจัดสรรเวลาในการอ่านหนังสือ ทำให้คนอ่านมีสมาธิจดจ่อกับเนื้อหาของเรื่องได้เต็มที่ ละครโทรทัศน์ เป็นสื่อที่มีทั้งภาพและเสียง ทุกอย่างถูกเตรียมมาเพื่อให้คนดูไม่ต้องจินตนาการมาก เพราะไม่ใช่ทุกคนจะนั่งดูละครอยู่หน้าทีวี บางคนเปิดทีวีทิ้งไว้ ทำกับข้าว รีดผ้า เล่นคอมพิวเตอร์ไปด้วย ทำให้ละครต้องหาทางทำให้คนดูสนใจด้วยตัวมันเองให้มากที่สุด ไม่แปลกถ้าบางครั้งตัวละครจะพูดคนเดียว เพราะคนดูอาจกำลังกินข้าวอยู่ ไม่ต้องเงยหน้าดูก็รู้ว่าเรื่องเป็นยังไง…และที่สำคัญ คนดูมีอำนาจอยู่ในมือนั่นคือ ‘รีโมท’ ที่พร้อมจะกดเปลี่ยนช่องได้เสมอ  ถ้าเรื่องราวไม่น่าสนใจเพียงไม่กี่วินาที คนดูจะกดเปลี่ยนช่องทันที ทำให้คนทำละครต้องทำทุกทางเพื่อดึงคนอยู่ให้อยู่ ก่อนเข้าโฆษณาก็หาทางปิดฉากให้ลุ้นจนคนดูต้องรอดูให้ได้ ด้วยลักษณะของสื่อและพฤติกรรมของคนรับสื่อที่ต่างกัน เลยมีผลทำให้นิยายเมื่อมาเป็นละคร จะต้องถูกปรับเปลี่ยนอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้หมายความว่า คนทำละครจะสนใจแต่ความสนุกและการดึงคนดูเพียงอย่างเดียว … Continue reading

[บันทึก 70 แกรม] ประสบการณ์ อารมณ์ และงานเขียน 1
นักเขียน / นิยาย / บันทึก 70 แกรม / พิมพ์ดีด / เนื้อหาสาระ / เมเปิ้ลสีขาว / Uncategorized

[บันทึก 70 แกรม] ประสบการณ์ อารมณ์ และงานเขียน 1

เคยไม่เข้าใจบางอารมณ์ไหมคะ? เคยไม่เข้าใจความรู้สึกบางไหมคะ? ฉันเคยค่ะ และเชื่อว่าทุกคนก็คง “เคย” เมื่อเราไม่เข้าใจความรู้สึกโดยการใช้ชีวิตแล้วถ้าเรื่อง (ที่ทำให้เกิดความรู้สึก)นั้นไม่ใช่ของเรา ก็คงไม่ส่งผลอะไรต่อการดำเนินชีวิตมากนัก แต่เมื่อคุณเป็นนักเขียน คุณควรจะศึกษาและรู้จักอารมณ์ด้วยค่ะ ยิ่งโดยเฉพาะหลายครั้งนักเขียนนำสถานการณ์ คำพูด ตัวบุคคลจริงๆ  มาเป็นต้นแบบในการเขียน เพราะคิดว่าน่าสนใจดี คุณทำแค่การก็อปตัวอย่างจริงในทางปฎิบัติมาเท่านั้นไม่เพียงพอนะคะ มันจำเป็นมากที่คุณจะต้องเข้าใจอารมณ์ของสถานการณ์ด้วย ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า เรากำลังพูดถึงการเขียนนิยายให้ดีค่ะ ไม่ใช่เขียนนิยายให้ได้ค่ะ สิ่งสำคัญในเรื่องเล่าเพื่อความบันเทิงนั้น คือการถ่ายทอดอารมณ์ค่ะ หากลองเปรียบงานเขียนเป็นเครื่องดื่มนั้น ลองคิดสิคะว่าหากเรามีแค่น้ำเปล่าอย่างเดียว จริง ๆ มันก็โอเค ดื่มได้ใช่ไหมคะ อาจจะทำให้ชื่นอกชื่นใจพอสมควร แต่ถ้านิยายที่คุณมีนั้นเป็นโคล่า เป็นน้ำผลไม้ หรือเป็นน้ำผักสดเพื่อสุขภาพล่ะค่ะ สีสัน รสสัมผัส ความอิ่มใจและประสบการณ์ที่ได้รับต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ มันมีความแตกต่างระหว่างการอ่านนิยายที่การเขียนไม่เลว แต่ให้อารมณ์เหมือนกับดื่มน้ำเปล่า กับการอ่านนิยายที่การเขียนไม่ดีนักและให้อารมณ์เหมือนในตู้เย็นของคุณเต็มไปด้วยโคล่าหรือน้ำหวานอยู่นะคะ ลองคิดดูเองว่าคุณจะจำจด ชื่นชอบ แบบไหนมากกว่ากัน ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างตัวเลือกที่ยกมาให้เห็นนั้นก็คือการ “ถ่ายทอดอารมณ์” ค่ะ ถ้าคุณเป็นนักเขียนประเภทพลอตเป็นหลัก คุณนำเหตุการณ์หนึ่งมาเขียนถึง หรืออาจจะจินตนาการขึ้นมา คุณอาจจะไม่ได้รู้สึกไปกับตัวละครมากนัก แต่คุณก็ต้องเข้าใจกระบวนการของอารมณ์ที่เกิดในสถานการณ์นั้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ทำไมเขาถึงต้องโกรธ ทำไมทั้งที่เหตุการณ์น่าจะโมโหมาก แต่เขาถึงไม่โกรธ เป็นต้น ยิ่งถ้าคุณเป็นนักเขียนแบบคาเรคเตอร์เบส … Continue reading

A Little Journey : Meeting with a Remarkable Man (3)
A Little Journey / นิยาย / พัณณิดา ภูมิวัฒน์ / พิมพ์ดีด / ลวิตร์ / แฟนตาซี

A Little Journey : Meeting with a Remarkable Man (3)

ที่มา: http://metromobile.webbudesign.com/?page_id=99 -3- เทย์ครางอ๋อยตอนที่ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา เขาก็แก่แล้วจริงๆ …ใช่ไหม ต่อให้ไม่มีโรคอะไรเลย เพราะทั้งไอ้ขอรับทั้งยายนานาต่างประโคมโหมผักให้เขากินตลอดเวลา แต่เทย์เกลียดการออกกำลังกาย กระดูกกระเดี้ยวกล้ามเนื้อจึงไม่ใคร่จะดี พอลุกขึ้นได้แล้ว พ่อมดจึงนิ่งไป รอบด้านไม่ใช่โถงอาคารสำหรับใช้เวทมนตร์แล้ว หากแต่เต็มไปด้วยหมอก…หมอกเรืองๆ สีใสๆ ราวขนมปุยฝ้าย ก็สวยดีกระมัง ทว่าไม่มีต้นมีปลาย ไม่มีท้องฟ้าหรือแผ่นดิน กะไม่ถูกว่ากว้างหรือแคบแค่ไหน ไม่มีระยะทาง นอกจากนั้น เทย์ยังค่อนข้างแน่ใจเกินร้อยส่วนว่าคงไม่มีกาลเวลาด้วยกระมัง “เจ้ามีของเกี่ยวกับเวทมนตร์ติดตัว” เขาบอกไอ้เจ้าชายแมลงที่เพิ่งลุกขึ้นได้เช่นกัน โกรธเกินกว่าจะเรียกมันด้วยสรรพนามยกย่องอีกต่อไป เจ้าชายไม่ตอบชั่วขณะ มันเองก็กวาดตามองสำรวจโดยรอบเช่นกัน ทำให้เทย์สงสัยขึ้นมานิดๆ ว่าไอ้เวรนี่มีความรู้สึกรู้สาอะไรบ้างหรือเปล่า ตั้งแต่เจอกันมาถึงบัดนี้ เขาไม่เคยเห็นรีกาลีส อารามาเอลหน้าเปลี่ยนสีเลย ที่จริงน้ำเสียงก็ไม่เปลี่ยนเช่นกัน คล้ายกับไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในโลกนี้ ก็ไม่มีทางกระทบถึงมันได้เลย “ที่นี่คือที่ไหน” เจ้าชายถาม “วาลเล่า” “เจ้าบอกข้ามาก่อน เจ้ามีของเกี่ยวกับเวทมนตร์ติดตัวใช่ไหม” เทย์ขู่ฟ่อ “ถ้าข้าไม่รู้ ข้าก็บอกไม่ได้หรอกว่านี่มันเกิดบ้าอะไร” ไอ้แมลงนิ่งคิด ครั้นแล้วมันก็ถามกลับ มันบอกว่า 1. เทย์ให้คำจำกัดความ “ของเกี่ยวกับเวทมนตร์” ไม่ครบถ้วนใช่ไหม 2. ขอให้ให้คำจำกัดความอย่างละเอียดครบถ้วนด้วย ไม่เช่นนั้นมันจะวิเคราะห์แยกแยะสิ่งที่ติดตัวไม่ได้ 3. มันต้องการแน่ใจว่าหนูวาลปลอดภัย … Continue reading

มาคุยถึงโรคทำงานหนักกันเถอะค่ะ
ชีวิตการงาน / นักเขียน / นิยาย / บันทึก 70 แกรม / หนังสือ / เมเปิ้ลสีขาว / Uncategorized

มาคุยถึงโรคทำงานหนักกันเถอะค่ะ

ฟรีแลนซ์ทำงานนั่งโต๊ะก็ต้องดูแลสุขภาพเหมือนกันนะจ๊ะ คนส่วนใหญ่ชอบพูดว่า “ทำงานนั่งโต๊ะน่ะสบายยยย ไม่ต้องไปแบกหาม ไม่ต้องไปตากแดด เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน” แต่ก็ดันมีคำพูดติดปากคนส่วนใหญ่อีกเหมือนกันล่ะค่ะว่า “ไม่มีงานไหนที่สบายหรอก” ดูสิ…ย้อนแย้งกันขนาดไหน บล็อกนี้ขอแปลงร่างเป็นบันทึกเพื่อสุขภาพชั่วคราว เพราะระยะนี้เดธไลน์ชีวิตติดๆ กันค่ะ คือต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้ทันกับเวลา ซึ่งทั้งหมดนั้นก็แลกกับพลังงานชีวิตที่ลดลงจริงๆ ค่ะ ร่างกายของเราก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ส่วนตัวแล้วหลังจากปล่อยปละละเลยทำงานตามใจชอบ อยากทำเวลาไหนก็ทำ อยากกินเวลาไหนก็กิน มาหลายปีตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ผลจากการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยรู้เวล่ำเวลานั้นส่งผลต่อร่างกายในช่วงวัยถัดมามากจริงๆ ค่ะ ดังนั้นจึงอยากมาเขียนไว้เพื่อปรับทุกข์ (เฮ้อ) ไม่ใช่ค่ะ เผื่อน้องๆ ที่ยังอยู่ในช่วงวัยที่ยังไม่พ้นสามสิบปีทั้งหมดอ่านกันว่า “การจัดการเวลาในชีวิต” เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ นะคะ ย้อนคิดไปค่ะ ตามประสาคนเริ่มแก่ (-w-‘) คือพอคิดย้อนไป มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าการทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ ของคนเรานี่บางทีก็ทำไปโดยไม่รู้ตัวนะคะ เป็นไปอย่างอัตโนมัติ มีช่วงหนึ่งจู่ ๆ ก็รู้สึกว่าการอดนอนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว คิดถึงสมัยก่อนเรียนประถม มัธยม งานเยอะแค่ไหนก็ไม่เคยหามรุ่งหามค่ำ แต่พอมหาวิทยาลัยก็เรียนหนักขึ้น แล้วก็ติดนิสัยทำ(ราย)งานหนักมาตั้งแต่สมัยนั้น บางคนอาจจะตั้งใจทำงานหนักเอง หรือบางคนก็อาจจะแค่มาทำงานเมื่อใกล้กำหนดทำให้ต้องเร่งทำงานหนัก อดหลับ อดนอน จนกระทั่งถึงเวลาเรียนจบ ต้องทำงานทำงาน เมื่ออยากก้าวหน้า อยากมีอนาคตก็ต้องทำงานหนัก … Continue reading

คุยกับพิมพ์ดีด #4 ทักทายหน้าฝน
นักเขียน / นักแปล / นิยาย / Uncategorized

คุยกับพิมพ์ดีด #4 ทักทายหน้าฝน

อ่านบทความเบื่อกันหรือยังคะ? เลยมาคุยเล่นกันบ้าง…เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พิมพ์ดีดเปิดมาได้หกเดือนเต็มแล้ว เพจเงียบเหงาเกินไปไหม เราพยายามบริหารเพจเท่าที่จะทำกันได้อยู่ หวังว่าจะยังเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ตอนนี้เรามีโครงการที่คิดจะรวบรวมทิปส์เรื่องงานเขียน งานแปล ให้เป็นหลักแหล่งกว่านี้ยังไงก็รอติดตามกันด้วยน้า อีกเรื่องก์คือช่วงนี้มีงานหนังสือสัญจรไปทั่วประเทศค่ะ ใครยังไม่รู้ว่าที่ไหนมีอะไรตอนไหน ก็ดูตามตารางนี้ได้เลยนะคะ เครดิตภาพ Bookthai กิจกรรมแต่ละที่ก็ต้องลองติดตามข่าวกันดูค่ะ แต่ได้ข่าวว่าที่เชียงใหม่ที่เพิ่งจัดไปนั้นคึกคักมากกกกก ก.ไก่ล้านตัว นอกจากนี้ก็มีวันพุธถึงอาทิตย์นี้ ร้านนายอินทร์ยังจักบิ๊กเซลล์ด้วยนะคะขนหนังสือมาเพียบเลยอย่าลืมไปอุดหนุนและสนับสนุนวงการหนังสือไทยให้อยู่รอดปลอดภัยต่อไปได้นะคะ ♥ รายละเอียดงาน+โปรโมชั่นดูตามลิงค์ได้เลยค่ะ นายอินทร์ Big Thanks Sale ช่วงนี้ฝนตกบ่อยเหลือเกินรักษาสุขภาพด้วยค่า จากใจ : พิมพ์ดีด Continue reading

บันทึก 70 แกรม : 8 Step ของเรื่องการเขียน Romantic-Comedy
ชีวิตการงาน / ตลกขบขัน / ตัวละคร / นักเขียน / นิยาย / บันทึก 70 แกรม / เมเปิ้ลสีขาว / Uncategorized

บันทึก 70 แกรม : 8 Step ของเรื่องการเขียน Romantic-Comedy

  ขั้นตอนโดยสรุปแล้วของเรื่องรักตลกเบาสมองคือ Step 1 สร้างตัวละคร-เรื่องราวชีวิตของพระ-นาง เป็นการเซตอัพเรื่องขึ้นมา ส่วนใหญ่ที่ทำกันก็คือการเซต พระเอก และนางเอก เป็นศูนย์กลางจักรวาล โดยมีคนอื่น ๆ  ครอบครัวปัญหา เป็นดาวเคราะห์น้อยที่โคจรอยู่รอบ ๆ ควรทิ้งสัดส่วนเรื่องอยู่ที่มุมมอง ความคิด และการกระทำของพระนาง 90 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็นสัดส่วนของครอบครัว เพื่อน คนรู้จัก หรือเหตุการณ์อื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อเรื่อง Step 2 มี “การพบกันที่น่ารัก” ของพระเอก-นางเอก ควรครีเอทฉากที่น่ารัก น่าหมั่นไส้ การพบกันของตัวละครเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นการสร้างความประทับใจแรกให้กับเรื่อง คนอ่านจะชอบ ไม่ชอบ อยากติดตามต่อแค่ไหน สำหรับเรื่องรักแล้วอยู่ที่ตรงนี้ แม้มันจะเป็นเพียงอารมณ์เล้กๆ ของตัวละคร ยังไม่ตกหลุมรักกัน อาจจะเกลียดหน้ากันด้วยซ้ำ แต่ถ้าคุณมีฉากดี ๆ ที่ทำให้คนอ่านนึกสนุก รู้สึกว่าน่ารักดี จะทำให้เรื่องของคุณมีชัยเหนือใจคนอ่านกว่าครึ่งแล้ว Step 3 สร้างความใกล้ชิดระหว่างพระเอก – นางเอก #1 เริ่มปิ๊ง … Continue reading

Daemon Bakery : รวมตอนพิเศษ
A Little Journey / นิยาย / พัณณิดา ภูมิวัฒน์ / พิมพ์ดีด / ลวิตร์ / แฟนตาซี

Daemon Bakery : รวมตอนพิเศษ

นี่เป็นตอนพิเศษกับพวกมุกที่เคยเขียนไว้ และไม่ได้รวมอยู่ในหนังสือค่ะ อย่างที่แจ้งแล้วคือเดือนนี้ข้อยแบนแต๋มาก ดังนั้นเลยแก้พี่รีกัลไม่ทัน (._.’) แต่ไหนๆ เอาของเก่ามารีรัน ก็เลยเอามารวมกันให้หมดทีเดียวเลย เผื่อใครตกหล่นอันไหนไป ก็อ่านเล่นได้นะคะ ### My Family   วันที่ 30 เดือนกระทิง ศักราชอารัชที่ 21 ข้าพามอร์ไปเที่ยวบ้านของตากับยาย ตากับยายของข้าไม่เหมือนท่านตาท่านยายของมอร์ อืม…แต่คิดอีกทีอาจจะเหมือนก็ได้! เพราะเมื่อก่อนท่านยายของมอร์ก็มีร้าน แล้วก็ขายขนม ตากับยายของข้าก็มีร้านเหมือนกัน แต่ว่าขายของชำทั่วไป ตากับยายไม่ได้อยู่ที่ทรัวรังส์ แต่อยู่ที่เมืองอามีสที่อยู่ไกลเขตประตูระหว่างแดนออกไป พ่อข้าเจอแม่เพราะตอนรับราชการใหม่ๆ ถูกส่งไปประจำที่อามีส พ่อข้าไปซื้อของก็เจอสาวงามในร้าน (แม่ข้าเอง!) เลยตกหลุมรัก แต่พ่อข้าเป็นพวกชอบแล้วก็ไม่รู้จะพูดยังไง พ่อก็เลยไปซื้อของทุกวันๆๆๆๆ จนตากับยายข้าจำได้ ตากับยายบอกว่าพ่อตลกมาก ไม่มีของจะซื้อแล้วก็เลยซื้อซ้ำๆๆๆ อีก ยายข้าเคยถามว่าซื้อไข่ไปตั้งหกสิบกว่าฟองภายในสามวัน เอาไปทำอะไร พ่อก็ทำเป็นไม่ได้ยิน แต่อาจจะเพราะซื้อของเยอะแยะ เป็นลูกค้ารายใหญ่ แถมยังเอาแต่มองแม่ข้า ไม่ยอมมองไข่ ผ้าเช็ดพื้น สบู่ ฯลฯ ที่แม่ข้าห่อให้ แม่ก็เลยรู้ว่าพ่อชอบจนได้ แล้วสุดท้ายแม่ก็เลยถามพ่อว่า ชอบข้าเรอะ!? พ่อข้าก็เลยบอกว่า ใช่!! … Continue reading

A Little Journey : Meeting with a Remarkable Man (2)
A Little Journey / นิยาย / พัณณิดา ภูมิวัฒน์ / พิมพ์ดีด / ลวิตร์ / แฟนตาซี

A Little Journey : Meeting with a Remarkable Man (2)

ที่มา : https://www.facebook.com/clovertalegarden/ -2- หลังจากนั้นเธอก็อธิบายให้รีกัลฟัง เธอบอกว่าพ่อจะใช้เวทมนตร์ข้ามเมือง ซึ่งเป็นมนตร์ใหญ่ มนตร์ใหญ่ขนาดนี้เธอเองที่ยังสอบไม่ผ่านใช้ไม่ได้ อีกอย่างหนึ่ง มันก็ใหญ่เสียจนมีกฎหมายห้ามไม่ให้ใช้ที่นี่โดยตรง ต้องเดินทางต่อไปยังบริเวณที่อนุญาตจึงจะใช้ได้ “เพราะที่นี่เป็นเมืองท่าสำคัญ” เธอบอกรีกัล “ถ้าใช้มนตร์ขนาดนี้กลางเมืองสุ่มสี่สุ่มห้า จะก่อความเสียหายได้ง่าย” รีกัลตั้งใจรับฟัง และถามต่ออีกสองสามคำ ยังมีเรื่องเวทมนตร์อีกหลายเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ การศึกษาเวทมนตร์ในทวีปของรีกัลค่อนข้างล้าหลัง ไม่มีการจัดระบบให้เรียบร้อย บางทีคงเพราะคนส่วนใหญ่มองว่าเวทมนตร์มักจะสัมพันธ์กับปีศาจที่อยู่ในอีกมิติกระมัง “แต่ท่านย่าของข้าเป็นแม่มด” เขาบอกเธอ “ท่านพ่อก็ใช้เวทมนตร์ได้” “ท่านย่าของท่านเรียนวิชาอย่างไรหรือ ถ้าไม่มีโรงเรียน ไม่มีวิทยาลัย” เธอสงสัย “พ่อมดแม่มดที่มีอายุมากกว่าจะออกเสาะหาเด็กๆ ที่เป็นอย่างนั้น ถ้าถามความสมัครใจแล้วตกลงเรียน ก็จะมีการรับเป็นศิษย์กัน มีสมาคมอยู่” เขาบอก “ท่านพ่อข้าไม่ได้เป็นพ่อมด แต่มารุสไพราก็หาคนรู้เวทมนตร์มาสอนวิชา หาตำรามา…อืม เขาไม่ได้อยากให้ท่านพ่อเป็นพ่อมด ดังนั้นที่ท่านพ่อรู้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเวทมนตร์ที่ใช้ในการศึกสงคราม” เขานิ่งไป “ดูเหมือนท่านย่าจะเคยสอนเวทมนตร์อื่นให้ท่านพ่ออยู่บ้าง นิดๆ หน่อยๆ เมื่อเด็กบางทีท่านพ่อก็เล่นกลด้วยเวทมนตร์อย่างนั้นให้ข้าดู” “ปลอบเวลาท่านร้องไห้โฮๆ หรือ” เธอยิ้ม “ข้าไม่เคยร้องไห้อย่างนั้น” เขาดูไม่พอใจนิดหน่อย “อืม แต่บางทีข้าก็คิดว่า ถ้าท่านพ่อโตมากับท่านย่า ไม่มีใครคอยบังคับ บางทีเขาอาจจะเลือกเป็นพ่อมดก็ได้” บางทีคงเพราะรีกัลคิดอย่างนั้น ยามที่คนของโรงพักแรมช่วยยกสัมภาระลงมาและเรียกรถม้าให้ … Continue reading