A Little Journey / นิยาย / พัณณิดา ภูมิวัฒน์ / พิมพ์ดีด / ลวิตร์ / หนังสือ / แฟนตาซี

A Little Journey : Telltale Island (1)

Abstract_Other_golden_compass_amazing_beautiful_Compass_Letter_nice_old_parchment_Pretty_Scroll_Way_135362_detail_thumb

[จดหมายจากเจ้าชายรัชทายาท/หัวหน้ากบฏ รีกาลีส อารามาเอล ถึงพระราชาธิบดีอารัชอิลูมินา ผู้เป็นพระราชบิดา]

เรียนท่านพ่อที่เคารพ

ข้ารู้สึกกังวลใจ

ข้าบอกไม่ถูกว่าทำไมตัวเองจึงกังวล ข้าวิเคราะห์ไม่ได้ ไม่สิ ที่จริงคงพอได้ แต่ข้ายังรู้สึกว่ามันใกล้ตัวเกินไป ทำให้ความเข้าใจ ไม่กระจ่างชัดเจน ข้าจึงคิดว่าจะพยายามเรียบเรียงความคิดด้วยการอธิบาย บางเรื่องท่านทราบอยู่แล้ว แต่ขอให้ข้าเขียนสักหน่อย พูดกับท่านแล้วบางครั้งข้าก็รู้สึกกระจ่างขึ้น บางทีดีกว่าเขียนรายงาน

ตามที่ข้าบอกท่านแล้ว ข้าตัดสินใจมาส่งวาล…วาลาเทอี นัตเซ เฮเบล เธอจะกลับบ้าน จากแดนกลางไปบ้านเธอ ต้องข้ามทะเลใหญ่ ทวีปของเธอเป็นทวีปที่ใกล้ทวีปของเราที่สุด ใช้เงินสกุลเดียวกัน เธอมาแดนกลางเพื่อเก็บข้อมูลทำรายงานสำหรับสอบจบระดับวิทยาลัย เธอเป็นแม่มด หัวข้อรายงานคือดินแดนที่มีมิติคู่ขนาน แดนกลางของเรามีมิติคู่กับแดนปีศาจของมอร์ ทำให้เธอสนใจ

แม้จะพบเรื่องราวต่างๆ มากมาย แต่ผ่านไปสามเดือน วาลก็เก็บข้อมูลพอแล้ว จึงจะกลับบ้าน เพราะตำราเวทมนตร์ที่แดนเรามีให้ค้นคว้าไม่พอ ล้าหลังกว่าที่บ้านเธอมากทีเดียว

ข้าก็ตัดสินใจมาส่งเธอ

ข้าคิดว่าตัวเองชอบวาล ข้าพูดว่ารักไม่ได้ ท่านพ่อย่อมรู้ว่าข้าไม่สามารถเข้าใจความรัก และอารมณ์อีกหลายๆ อย่างที่พวกท่านพูดถึงกัน ข้าก็ไม่เข้าใจ ไม่เคยทราบว่าตัวเองมีไหม แต่วาลทำให้ข้ารู้สึกดีเสมอ ตั้งแต่แรกพบกันจนถึงวันนี้ ไม่มีวันใดที่ข้าอยู่กับเธอแล้วไม่สบายใจ อาจจะมีอยู่บ้างตอนที่ข้าหลอกใช้เธอ…ข้าไม่สบายใจมาก และหลังจากนั้นที่เธอโกรธข้า ข้าก็ไม่สบายใจ แม้ว่าการหลอกครั้งนั้นจะไม่มีอันตราย และให้ผลดีในภาพรวมก็ตาม

ข้าคิดว่าเธอยังคงดีกับข้า…แม้จะเคยถูกหลอกใช้ สามเดือนมานี้ เธอก็อยู่เป็นเพื่อนเสมอตลอดเวลาที่ข้าป่วยมาก ลุกไม่ได้ เมื่อดีขึ้นแล้ว ข้าพาไปเที่ยว เธอยังดูสนุกดี แต่ข้าไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไร ข้าเคยคบหาแต่คนที่ทำงานด้วยกัน ไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงใกล้ชิดเช่นนี้มาก่อน และเธอก็ไม่คล้ายแขกเมืองผู้หญิง หรือพวกผู้หญิงในราชสำนักเช่นกัน

แต่เธอเคยบอกข้าไว้ นานมาแล้ว ตอนที่ข้าถามเธอว่า ให้เกียรติข้าเกี้ยวเธอได้ไหม เธอว่าข้าซับซ้อนเกินไป เธอรับปากไม่ได้ เธอไม่เคยรับปากเลยจนถึงวันนี้ ข้าจึงคิดว่าเธอคงยังไม่ไว้ใจ ข้าไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรเธอจึงจะไว้ใจ นิสัยของข้าก็คงเป็นเช่นนี้ไปจนตาย ท่านคาเลฟเคยถามว่าจะให้เขาเปลี่ยนให้ไหม แต่ข้าไม่คิดจะเปลี่ยนเอง

ท่านพ่อ ข้ามาส่งวาล เพราะข้าไม่รู้ว่าหลังจากส่งแล้วจะเป็นอย่างไร ที่จริงมอร์บอกว่าส่งวาลเท่านี้ เขาส่งผ่านช่องมิติให้ก็ได้ ไม่ต้องนั่งเรือเป็นสัปดาห์สองสัปดาห์ แต่เมื่อวาลอยากขึ้นเรือ วาลก็ควรได้ขึ้นเรือ ข้าไม่รู้ว่าตัวเองเหลือเวลาอีกเท่าไร เธอต้องการอะไร ข้าก็จะให้เธอ

ท่านพ่อ ข้าเขียนรายงานหลายเล่มมากแล้ว แต่ข้าไม่สามารถจะเข้าใจ ข้าคิดว่าเป็นเพราะมันใกล้เกินไปนี่เอง จึงไม่กระจ่าง (ดังที่บอกท่านไปแล้ว) และแม้เขียนรายงานก็ทำให้กระจ่างไม่ได้ ข้าควรทำอย่างไรหรือ ข้าควรบอกวาลอย่างไร ควรปฏิบัติตัวอย่างไร เธอจึงจะไว้ใจ พูดตามตรง ข้าคิดว่าการตัดสินใจหลอกเธอคราวนั้น เป็นการตัดสินใจอย่างถูกต้อง เพราะไม่มีทางอื่นอีกแล้วที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ และหากพูดตามภาพรวม ก็ถือว่าได้ผลสำเร็จตามประสงค์ ข้าสามารถส่งร่างคืนท่านคาเลฟ ลดโอกาสชนะของมารุสไพราลง

แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ตามมา…ซึ่งข้าก็คาดไว้แล้วเช่นกัน กลับทำให้ข้าไม่สบายใจยิ่งกว่าครั้งใดๆ  บางทีเพราะปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ที่จริงแล้วก็เป็นเป้าหมายซ้อนของข้าด้วย คือข้าต้องการจะคบหากับวาลต่อไป เพียงแต่ตอนนั้นข้าไม่รู้ ไม่คิดว่าการทำตามเป้าหมายซ้อนดังกล่าวไม่ได้จะส่งผลรุนแรงถึงเพียงนี้ ข้าก็ไม่เข้าใจ…ข้าไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย

ท่านแม่เคยไม่ไว้ใจท่านพ่อบ้างไหม และท่านพ่อแก้ไขอย่างไร

ขอแสดงความนับถือ

รีกัล

#

รีกัล

ขอให้เจ้าสงบใจลง

ทำใจให้นิ่งไว้ เจ้าไม่ใช่คนเดียวที่มีอาการเช่นนี้ และอาการเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด มองมันให้ดี ไม่เป็นไร พ่อรู้ดีว่าเจ้าเป็นคนฉลาดมาก หากนิ่งลง ก็จะเห็นสิ่งต่างๆ เอง ให้คิดว่าพ่ออยู่กับเจ้าก็แล้วกัน

ส่วนเรื่องที่เจ้าถาม…แม่ของเจ้าไม่เคยไม่ไว้ใจพ่อ เท่าที่พอจะจำได้ มีแต่พ่อที่ไม่ยอมไว้ใจนาง…สมัยนั้นพ่อยังหนุ่ม มีปัญหาหลายอย่าง ทำให้มีนิสัยไว้ใจคนยาก และไม่สามารถเชื่อว่านางจะมารักชอบคนอย่างพ่อจริงจังได้

ส่วนแม่เจ้าทำอย่างไรให้พ่อไว้ใจ…เท่าที่จำได้ นางพยายามหลายทางจริงๆ ทั้งพูดตรงๆ และใช้ทางอ้อมอื่นๆ พอหวนคิดตอนนี้แล้ว พ่อก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองไม่ยอมเข้าใจ อย่างไรก็ตาม…อย่างที่เจ้ารู้อยู่แล้ว…สุดท้ายนางทนไม่ไหว นางจึงเอามีดตัดซองจดหมายจี้คอพ่อ ทั้งยังร้องไห้ บอกว่าข้ารักท่าน เมื่อไรท่านจะเข้าใจ ตอนนั้นพ่อออกจะตกใจมาก ทั้งตกใจที่นางร้องไห้ และตกใจที่นางใช้กำลัง แต่แล้วจึงเกิดเข้าใจขึ้นมา (แต่พ่อขอร้อง เจ้าอย่าไปใช้วิธีนี้กับหนูวาล มันออกจะน่าตกใจเกินไป)

พูดกันตามตรง พ่อไม่ได้เข้าใจเพราะถูกจี้คอ แต่พ่อเข้าใจเพราะแม่ของเจ้าทิ้งแบบแผนทั้งปวงหมดสิ้น ทิ้งกระทั่งความคิดว่าตัวเองควรปฏิบัติตัวอย่างไร นางทำตามที่ใจคิด ปล่อยการกระทำให้แสดงหัวใจ สิ่งที่นางทำอาจฟังดูแปลก ไม่มีเหตุผลสำหรับเจ้า แต่นั่นก็คือหัวใจ นางให้หัวใจพ่อ นางแสดงหัวใจและตัวตนของนางให้พ่อดูจนหมดสิ้นได้ เมื่อคนเราให้จนถึงที่สุด อีกฝ่ายย่อมเข้าใจ  เว้นแต่อีกฝ่ายนั้นจะไร้หัวใจอย่างแท้จริง แต่คนไร้หัวใจไม่ได้เกิดขึ้นง่ายนักหรอก รีกัล และเจ้าเอง…ไม่ว่าตัวเจ้าจะคิดอย่างไร ก็ไม่เคยเป็นคนไร้หัวใจ

จริงอยู่ แม้เมื่อแสดงหัวใจ อีกฝ่ายก็อาจจะรับ หรืออาจจะปฏิเสธเจ้าได้ แต่พ่อคิดว่าก็ยังดีกว่าไม่แสดงออกมา เพราะถ้าไม่แสดง อีกฝ่ายคงไม่เข้าใจ

รีกัล เจ้าอย่ากังวลเลย พ่อคิดว่าเจ้าเพียงแสดงหัวใจของตัวให้หนูวาลเห็นก็พอแล้ว แสดงความเป็นตัวเจ้า แสดงว่าเจ้ารู้สึกกับเธออย่างไร เมื่อเธอเห็น เธอย่อมเข้าใจ หากเจ้าทำผิดก็จงขอโทษ และอย่าทำผิดซ้ำอีกเลย

ดังนี้หากเธอเลือกเจ้า เธอก็จะเลือกเจ้า ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด นอกจากเพราะเจ้าเป็นเจ้าเอง คนเรายากจะเปลี่ยนธาตุของตัวเอง แต่ปรับตัวเข้าหากันได้ แต่ถ้าเจ้าไม่แสดงความจริง เธอจะไม่ได้เลือกเจ้าอย่างที่เจ้าเป็น ซึ่งสุดท้ายแม้ตัวเจ้าเองก็จะไม่ชอบใจ เธอมีสิทธิ์นี้ มีสิทธิ์รู้ว่าเธอจะได้พบอะไร

อ้อ และถ้าหากเจ้าอยากให้เธอยอมรับเจ้า เจ้าเองก็ควรยอมรับเธอเช่นกัน

ขอให้สิ่งดีทั้งปวงคุ้มครองพวกเจ้า ขอให้เดินทางปลอดภัย

พ่อเอง

– 1 –

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว อาหญิงของเธอเคยเขียนเรื่องการผจญภัยในทะเล

บางทีคงเพราะอาหญิงไม่เคยอยู่ในเมืองติดทะเลอย่างจริงจัง นางจึงเขียนเพียงเรื่องเดียว และไม่ได้เขียนอีก บอกว่าไม่ค่อยมีแรงบันดาลใจ แต่เธอกลับชอบเรื่องนั้นมาก…คงเพราะมันมีการผจญภัย ตัวละครเอกของอาหญิงเดินทางออกทะเล เจอเกาะร้าง เจอสิ่งแปลกประหลาดมากมาย ทั้งเกาะที่เป็นแท่งสูงๆ จึงต้องเทียบเรือแล้วปีนขึ้นไป ทั้งโจรสลัดดุร้าย เผ่ากินคน ขอบโลกที่นั่งห้อยเท้าลงไปได้ แล้วก็สมบัติอัศจรรย์

เพราะชอบเรื่องนั้นมาก เธอจึงมักคิดว่าวันไหนได้ออกจากบ้าน เธอจะไปทะเลให้ได้ ไม่ใช่แค่ไปดูเฉยๆ แต่จะนั่งเรือแล้วออกทะเลใหญ่ ที่จริงเธอก็เดาไม่ค่อยถูก ว่าตัวเองลงเรือแล้วจะเจออะไร แต่เอาเป็นว่าได้ออกทะเล ได้เห็นเกาะ ได้เห็นโลกที่มีแต่แผ่นน้ำกับแผ่นฟ้าว่าเป็นอย่างไร เธอก็คิดว่าตัวเองน่าจะพอใจเป็นเบื้องต้นแล้วกระมัง

เธอบอกเรื่องนี้กับรีกัล

“ขามาเจ้าไม่ได้นั่งเรือหรือ” เขาถาม

เธอบอกว่าใช่ แต่เรือแล่นไปตามเส้นทางปรกติ จึงคาดเดาได้ว่าจะพบอะไร ถึงอย่างนั้นก็สนุกอยู่ดี มีตอนที่แวะเติมเสบียงกับน้ำจืด แล้วก็ตอนที่เธอเห็นปลาบิน

“เป็นฝูงๆ เลย” เธอบอกเขา

เขาก็รับว่าอืมในคอ

เธอรู้จักกับรีกัลมาได้สามเดือนแล้ว

นอกจากลักษณะภายนอกอันรูปงามมากของเขา เธอก็ไม่แน่ใจว่าจนบัดนี้เธอจะเข้าใจสิ่งที่อยู่ภายใน

เขาเป็นคนซับซ้อน…และแปลก ในหลายๆ ความหมาย เขาคิดอะไรเป็นเหตุเป็นผลมาก และสามารถวางแผนล่วงหน้าได้อย่างแยบคาย แต่ถ้าถามเขาว่าดีใจไหม ชอบไหม เกลียดหรือเปล่า โกรธหรือ ไม่สบายใจใช่ไหม เขาจะใช้เวลาคิดนานมาก และจะพยายามแจกแจงสิ่งที่อยู่ในสมองตนเป็นข้อๆ โดยไม่สามารถตอบเป็นอารมณ์ที่รู้สึกจริงๆ

ท่านอารัช พ่อของเขา บอกว่าเขาเป็นอย่างนี้เอง

“ข้าจะบอกให้เขาพยายามปรับตัวกับเจ้ามากกว่านี้ ทุกคนที่นี่ชินกับเขามาก เขาจึงไม่ค่อยรู้ตัวว่าคนอื่นๆ อาจไม่เข้าใจ”

ไม่หรอก เธอเข้าใจรีกัล

ว่าอย่างไรดี เธอไม่เข้าใจว่ามีอะไรอยู่ข้างในสมองอันซับซ้อนของเขา แต่เธอเข้าใจว่าเขาเป็นคนอย่างนี้ และเธอก็รู้ว่าจริงๆ เขาเป็นคนอย่างไร เขาเป็นนักบริหารผู้ชำนาญการวางแผน เป็นนักวิชาการ เป็นสุภาพบุรุษ เป็นเจ้าชาย เขาเป็นคนใจดี เสียสละ มีน้ำใจ หวงครอบครัวมาก แม้จะไม่รู้ตัวเลยสักนิด และยังเอาแต่พยายามบอกเธอว่าตัวเองรักใครไม่เป็น

แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็สามารถเด็ดขาดและตัดอารมณ์ทั้งหมดได้ สามารถเย็นชาอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย เขาเป็นคนมั่นคง มีความสงบในใจ เวลาอยู่กับเขา เขาจะทำให้รู้สึกว่าไม่เป็นไร จัดการได้ ไม่ว่ามีปัญหามากมายขนาดไหน ก็ค่อยๆ จัดการกันไป

อืม เธอก็ชอบเขาจริงๆ

“ได้เรือแล้ว” เขาบอกหลังจากนั้น

เมื่อเธอไม่เข้าใจ เขาก็บอกว่าเธอจะกลับบ้านไม่ใช่หรือ และยังตระเตรียมจะไปซื้อตั๋วเรือกลับไว้ แต่ค่าตั๋วไม่ต้องเสียหรอก เขามีเรือการค้าหลายลำ (ของสมาคมค้าของเถื่อน [ปลอม] ที่เขาเป็นประธาน) มีลำที่จะไปค้าขายแถวบ้านเธอ จะติดไปก็ได้ เขาปรับเส้นทางเดินเรือให้แล้วด้วย ไม่ใช่เส้นทางอันตราย และไม่ได้ไกลขึ้นสักเท่าไร เพียงแต่ต่างไปจากเส้นทางขามา

“คงไม่ได้เจออะไรแปลกประหลาด แต่อย่างน้อยก็แปลกจากขามาหน่อย” เขาบอก “ข้าจะไปส่ง ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไร”

“คนเส้นใหญ่” เธอว่าเขา

“เส้นสายไม่ใช่เรื่องดี” เขาตอบมา “ไม่ควรใช้ แต่ข้าเช่าเหมาเรือทั้งลำจากสมาคม เงินส่วนตัวของข้าเอง ดังนั้นจึงเรียกว่าเส้นสายไม่ได้ เขาก็ได้ประโยชน์ ข้าก็ได้ประโยชน์เช่นกัน”

เพราะอย่างนั้น ขากลับเธอจึงได้เปลี่ยนเส้นทาง

มันก็ไม่ได้ต่างจากขามา แต่เธอไม่ว่าอะไร…อย่างน้อยก็ไม่ว่าจนกระทั่งเรือเริ่มออกทะเลหลวง และรีกัลเริ่มเมาเรือเกือบตาย เขานอนติดเตียงลุกไม่ขึ้น แถมยังไม่ยอมเข้าใจ เขาบอกว่าปรกติตัวเองไม่เคยอ่อนแอเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่านี่เป็นอาการที่น่าสนใจ เพราะเขาเคยแต่อ่านในหนังสือ คราวนี้จึงเป็นครั้งแรกที่เจอกับตัวจริงๆ

“ข้าจะบันทึกไว้” เขาพยายามจะหยิบเครื่องเขียนขึ้นมา

เธอจัดแจงคว้ามันแทน ยกไปให้พ้นมือ

“วาล ถ้าไม่เขียน ข้าจะลืม น่าเสียดาย” เขาขมวดคิ้ว

“แต่ท่านป่วยจะแย่แล้ว ท่านยังไม่หายดีจากที่ถูกควักหัวใจเลยนะ” เธอว่า มองสารรูปของเขาซึ่งยังคงผ่ายผอมอยู่มาก มอร์เทมบอกว่าเขาหายดีแล้ว แต่ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ ต้องใช้เวลาบำรุง

“วาล…”

“งั้นข้าจดให้ก็ได้ ท่านบอกมา” เธอไม่น่าใจอ่อน แต่ก็ชอบเผลอทุกที

เขาชะงักนิดหนึ่ง แต่พอเธอนั่งลงข้างเตียง เอากระดาษใส่แผ่นรองเขียน และถือแท่งถ่านไว้ เขาก็ค่อยๆ บอกทีละคำออกมา แต่ละคำช่างวิชาการเหลือเกิน เต็มไปด้วยความคิดเห็นและข้อสังเกตตามแบบของเขา ทำให้เธออดขำไม่ได้ เขาบอกไปเรื่อยๆ เธอก็ขำเรื่อยๆ เช่นกัน สุดท้ายเธอจึงเผลอยิ้มออกมา

เขาหยุดไป

เธอเงยหน้าขึ้นจากแผ่นรองเขียน เห็นเขานอนหนุนหมอน หน้าซีดจนเกือบเขียว แต่กำลังมองมา

“ไม่สบายมากหรือ จะอาเจียนหรือเปล่า” เธอไม่สบายใจ

“ไม่มีอะไร” เขาว่า “ข้าบอกหมดแล้ว อีกเดี๋ยวคงนอน”

“นอนเถอะ”

“ข้าอยากเขียนจดหมายถึงท่านพ่อ”

แต่พอเธอถามว่าจดให้ไหม เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาจะเขียนสั้นๆ แล้วจะนอน เขาทำท่าไม่อยากให้เธออยู่เฝ้า เธอจึงออกไป

เธอชอบรีกัล

แต่หลังจากวันที่เขาถามว่าเกี้ยวได้ไหม และเธอตอบเป็นทำนองว่าขอคิดดูก่อน เขาก็ไม่ถามอีกเลย

เธอจึงไม่รู้ สรุปเขายังจะเกี้ยวอยู่ไหม หรือไม่เกี้ยวแล้ว เลิกแล้ว เธอดูไม่ออกสักนิด เพราะไม่ว่าตอนไหน กิริยาท่าทางของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม ดังนั้นบางทีเขาอาจจะไม่เกี้ยวแล้วกระมัง

เธอไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร บางทีอาจจะ…ผิดหวังก็ได้ ถ้าเขาถามอีกครั้ง หรือแสดงการเกี้ยวจริงๆ เธอจะได้ตัดสินใจ เธอจะบอกว่า ลองดูก่อนกันเถอะ เพราะเธอก็ไม่รู้หรอกว่าเธอกับเขาจะเป็นอย่างไร มีความแตกต่างกันหลายอย่าง เขาเองใช่จะเป็นคนตรงไปตรงมา และเธอก็ไม่อาจตามเขาทันเสมอไป แต่บางที อาจจะเหมือนท่านลุง เพื่อนของพ่อแม่ที่เธอรู้จัก เธออาจจะค่อยๆ ปรับตัวได้ เธอไม่เคยมีใครมาก่อน และไม่เคยคิดคบหาใคร จนกระทั่งได้พบรีกัล เธอชอบเขาจริงๆ

แต่ถ้าเขาไม่คิดจะลองแล้ว เธอเป็นผู้หญิง ก็ไม่สะดวกจะพูดว่าข้าเริ่มก่อนก็ได้ ถึงจะอยากเป็นผู้แจ้งข่าว ชอบผจญภัย แต่ที่จริงเธอก็ถูกอบรมมาโดยแม่ที่เป็นคนเรียบร้อยและค่อนข้างหัวโบราณ ดังนั้นจึงรู้สึกพิลึกถ้าตัวเองเป็นฝ่ายชวน

พอไม่รู้จะทำอะไร เธอจึงไปพูดคุยกับกัปตันและต้นหนเรือ

พวกเขาบอกว่าฟ้าใส การเดินทางน่าจะราบรื่น แต่พอผ่านไปอีกราวครึ่งชั่วโมง จู่ๆ ฟ้าก็เริ่มมืดมัวจนน่าประหลาดใจ ต้นหนงุนงงมาก บอกว่าไม่เคยพบเคยเห็นว่าอากาศจะเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ได้ แต่เมื่ออากาศเปลี่ยน ทำท่าจะมีพายุ ก็ต้องรีบจัดการ เร่งเอาใบลง ผูกมัดรัดข้าวของต่างๆ คนบนดาดฟ้าจึงวิ่งกันวุ่นวาย เธอเห็นว่าต้องช่วยคนละไม้ละมือ ความที่เป็นคนคล่อง จึงวิ่งไปวิ่งมา ช่วยเขาเช่นกัน เธอผูกเชือกแบบกะลาสีได้ เคยขอให้คนสอนตั้งแต่คราวแรกที่ลงเรือมา

วิ่งไปวิ่งมาอยู่พักหนึ่ง ฟ้าก็ยิ่งมืด สายฟ้าแล่นปลาบๆ ในเมฆ สว่างเรืองวาบๆ ฟ้าร้องครั่นครื้นรุนแรง ลมโหมซัดจนละอองน้ำเข้าหูเข้าตา มองไม่เห็นอะไร คลื่นโยนตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เรือก็โคลงเคลงรุนแรงราวใบไม้ เธอจึงคิดว่าต้องลงไปใต้ท้องเรือแล้ว ไปดูรีกัล

ครั้นแล้วเธอก็เห็นว่าเขาปีนขึ้นบันไดมา

“รีกัล!” เธอร้องด้วยความตกใจ

เขาเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง เท้ายังเหยียบอยู่บนบันไดขั้นสุดท้าย จังหวะชะงักนั้นเอง เรือก็เอียงวูบ เขาเสียหลัก ร่างถูกเหวี่ยงกระเด็น เธอก็ตกใจ ลืมตัวจนเผลอกระโจน จะคว้าตัวเขาให้ได้

เรือเอียงอีกวูบ เธอกับเขาเลยยิ่งถูกแรงส่งเหวี่ยงไป สุดท้ายก็ตกเรือกันทั้งสองคน

________________

คุยกัน: A Little Journey จะแบ่งเป็นตอนย่อยๆ หลายตอนค่ะ ตอนนี้เป็นของพีรีกัล ตอนต่อๆ ไปอาจจะเป็นของตัวละครอื่น (เช่นเตเต)

เนื่องจากมีเวลานิดหน่อย เลยถือโอกาสรีไรท์ไปด้วย น่าจะต่างจากที่เคยอ่านๆ กัน แต่ถ้าคราวไหนไม่มีเวลา ก็อาจจะยังไม่ได้รีไรท์ ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้านะคะ TwT

2 thoughts on “A Little Journey : Telltale Island (1)

  1. งื้อออ ได้อ่านแล้ว จะตกเรือไปเจอกระท่อมน้อยกลางป่าหรือเปล่าคะเนี่ย

    Like

Leave a comment